เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 Believe บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านการบริหารจัดการและพัฒนาเพลงดิจิทัล ผู้เป็นศูนย์กลางความร่วมมือที่นำเสนอโซลูชั่นและนวัตกรรมแห่งวงการเพลงรูปแบบใหม่ ๆ อยู่เสมอ ถือโอกาสเหมาะจัดงาน Believe Amplify เวทีสัมมนาที่จัดขึ้นเพื่อมอบโอกาสให้แก่บุคลากรในอุตสหกรรมเพลงไทย ทั้งค่ายเพลง ศิลปินอิสระ และผู้ให้บริการแพลตฟอร์มมิวสิคสตรีมมิ่ง มาร่วมสร้างประสบการณ์พร้อมแชร์นวัตกรรมใหม่ เพื่อต่อยอดอนาคตและยกระดับอุตสาหกรรมเพลงในประเทศไทยสู่ระดับสากลไปด้วยกัน
โดยคุณ “Antoine El Iman” Managing Director Southeast Asia and Australia / New Zealand และ “คุณสมวลี ลิมป์รัชตามร” Country Director, Thailand, Laos, Cambodia & Myanmar จาก Believe กล่าวว่า “Believe เราทุ่มเทและโฟกัสกับเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมและทำให้ยอดสตรีมมิ่งออกมาดีที่สุด อีกทั้งเรายังมี ทีมงานที่พร้อมอยู่เคียงข้างและช่วยคุณผลักดันผลงานของศิลปินอย่างเต็มที่ทั้งในไทยและต่างประเทศ ทั้งนี้การปล่อยผลงานเพลงอย่างสม่ำเสมอถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการทำงานที่สามารถสอดคล้องกับอัลกอริทึม จะสามารถพาคนฟังทั้งเก่าและใหม่เข้ามาหาเพลงได้มากที่สุด และใช้เวลาได้สั้นที่สุด ส่วนการผลักดันศิลปินไปสู่ตลาดสากลเป็นเรื่องที่ดี แต่การรักษาฐานคนฟังในประเทศก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน เพราะปัจจุบันตลาดเพลงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทยกำลังถูกจับตามองเป็นอย่างมาก”
โดยในหัวข้อถัดมาเป็นการเชิญที่ตัวแทนค่ายเพลงดัง อย่าง “คุณสามขวัญ ตันสมพงษ์” Managing Director จาก What the Duck, “คุณพลกฤต ศรีสมุทร” จาก YUPP! และตัวแทนศิลปินอิสระผู้ยืนระยะอยู่ในวงการเพลงไทยกว่า 18 ปี “คุณแทน-ธารณ ลิปตพัลลภ จากวง LIPTA” มาร่วมแชร์ข้อมูลและสาระความรู้จากประสบการณ์ตรงเรื่องการพัฒนาศิลปินสู่การเป็นศิลปินแถวหน้า และการส่งเสริมตัวตน พร้อมผลักดันศิลปินให้อยู่ในกระแสในยุคดิจิทัลอย่างมั่นคง
โดย คุณสามขวัญ ตันสมพงษ์ กล่าวว่า “What the Duck เราไม่ได้มีสูตรตายตัว เพราะจุดเริ่มต้นของเราอยู่ที่ศิลปิน เราให้ศิลปินนำหน้าสร้างผลงาน ส่วนค่ายจะคอยซัพพอร์ตข้อมูลหลังบ้านให้เพื่อเสนอแนะเทรนด์ใหม่ๆ และปรับแพลนให้เหมาะสมตามพฤติกรรมผู้ฟังที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ”
ด้าน คุณพลกฤต ศรีสมุทร กล่าวว่า “ YUPP! เราเริ่มต้นจากฮิปฮอปแต่เบลนด์เข้ากับแนวเพลงอื่น ๆ ศิลปินของเราเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ แต่สำหรับศิลปินใหม่ ๆ ค่ายจะเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ขั้นตอนการทำเพลง มี KPI การเล่นโซเชี่ยลมีเดีย เพื่อให้พวกเขาสร้างตัวตนขึ้นมาในโลกออนไลน์ หลังจากนั้นเมื่อศิลปินเริ่มมีตัวตน พวกเขาเติบโตได้ที่ไหน เราก็พร้อมผลักดันให้เขาไปที่นั้นๆต่อไป”
ตามมาด้วยศิลปินอิสระอย่าง คุณแทน-ธารณ ลิปตพัลลภ จากวง LIPTA กล่าวต่อ “สำหรับวง LIPTA เราเข้ามาอยู่กับ Believe ในช่วงเวลาที่เหมาะสมมาก เป็นช่วงก่อนเพลง ‘ทักครับ’ สำหรับการยืนระยะของวงฯ ที่อยู่ในวงการเพลงมาประมาน 18 ปี การปล่อยเพลงอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เราสร้างความทรงจำไปพร้อมๆ กับแฟนเพลง ซึ่งทำให้เราไม่หายไปจากคนฟังนั้นเองครับ”
และในช่วงท้ายฯ เป็นช่วงของการอัพเดตข้อมูลและฟีเจอร์ล่าสุดจากผู้ให้บริการมิวสิคสตรีมมิ่งระดับท็อปมากมาย อาทิ Apple Music ที่มาให้ความรู้เกี่ยวหน้าฟีเจอร์ต่างๆ รวมไปถึงยกให้ประสบการณ์ของผู้ฟังเพลงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดด้วย Spatial Audio ระบบเสียงตามทิศทางและตำแหน่งได้มากกว่า Stereo ทั่วๆ ไป, Spotify ที่มาพร้อมคลาสเจาะลึกระดับ Spotify Master Class ตั้งแต่การทำความรู้จักฟีเจอร์การใช้งานต่าง ๆ ใน Spotify รวมถึงการชูจุดเด่นด้วยระบบหลังบ้านที่ศิลปินหรือทีมงานสามารถใส่ข้อมูล metadata ได้ละเอียดเพิ่งช่วยให้อัลกอริทึมทำงานต่ออย่างแม่นยำYouTube ก็ได้มาเผยวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพช่องยูทูป และกลยุทธ์การวางแผนปล่อยเพลงที่ระบบนิเวศของ YouTube สามารถเพิ่มการเข้าถึงให้ผลงานศิลปินอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการรุกตลาดวิดีโอสั้นด้วย YouTube Shorts ที่เป็นบริการหลักที่ยูทูปผลักดันเต็มที่ ส่งท้ายด้วย META ที่มาพร้อมเคล็ดลับและไอเดียสำหรับการเป็นครีเอเตอร์ในยุคที่ศิลปินและค่ายเพลงต้องปรับตัวเพื่อเข้าถึงแฟนเพลงจำนวนมากด้วยเครื่องมือใหม่อย่าง Reels บน Instagram และ Facebook
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของวงการเพลง และ Believe ได้ทาง