ดูคอนเสิร์ตวงนี้ทีไรก็ไม่เคยผิดหวังเลยจริงๆ ยิ่งครั้งนี้ได้เห็นศักยภาพที่เติบโตขึ้นไปอีกหลายขีดขั้นของ FTISLAND วงดนตรีร็อกจากแดนกิมจิ เจ้าของสมญานาม ‘ฮันรยูแบนด์’ หรือ ‘หนึ่งในวงดนตรีที่ดีที่สุดของประเทศเกาหลี’ ในคิวปิดท้ายตารางทัวร์คอนเสิร์ต 2015 FTISLAND LIVE [We Will] IN BANGKOK ซึ่งภูมิใจนำเสนอโดย บริษัท เฟโอห์ จำกัด ผู้จัดคอนเสิร์ตโพรไฟล์ดีของบ้านเราที่เคยฝากผลงานดีเด่นไว้มากมาย จับมือกับต้นสังกัดฝั่งประเทศเกาหลีใต้ FNC Entertainment และร่วมสนับสนุนโดย มิเนเร่ น้ำแร่ธรรมชาติ 100%, โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์, วอร์นเนอร์มิวสิค ประเทศไทย และ บีทูเอส
แค่เปิดเวทีด้วยวีทีอาร์สั้นๆ เสียงกรี๊ดก็ดังสนั่นธันเดอร์โดม เมืองทองธานี นำร่องไปแล้ว และเมื่อห้าหนุ่ม ชเวจงฮุน (Choi Jong Hoon) หัวหน้าวงและลีดกีตาร์, อีฮงกี (Lee Hong Gi) นักร้องนำ, อีแจจิน (Lee Jae Jin) เบสและร้อง, ชเวมินฮวาน (Choi Min Hwan) กลอง และ ซงซึงฮยอน (Song Seung Hyun) กีตาร์ริทึ่ม เดินเข้าประจำตำแหน่ง เสียงกรี๊ดก็ยิ่งกระหน่ำหนักขึ้นไปอีก จุดที่ทำเอาทุกคนเซอร์ไพรส์และมีเฮคือสีผมของฮงกี ซึ่งจงฮุนแซวไว้ในงานแถลงข่าวว่าอยากให้เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีดำ วันนี้ฮงกีเลยจัดให้! มาในลุคผมดำเอาใจพรีมาดอนน่าชาวไทยโดยเฉพาะ เริ่มต้นเพลงแรกก็ร้อนแรงกันเลยกับ Love Love Love เวอร์ชั่นร็อก พร้อมไลต์ติ้งโทนสีแดง พลังงานเลยมาเต็ม กระโดดอย่างเมามันยาวไปกับเพลงร็อกชุดใหญ่ Memory, Black Chocolate, Time To, Be Free โดยมีโชว์พิเศษเป็นช่วงโซโลกลองสุดเทพของมินฮวาน และโซโลกีตาร์สุดเท่ของลีดเดอร์จงฮุนแทรกอยู่ด้วยเก๋ๆ จากนั้นเบรคทักทายกันนิด งานนี้ห้าหนุ่มฝึกภาษาไทยมาอย่างเป๊ะมาก กับประโยคน่ารักๆ อย่าง “คิดถึงมากๆ”, “ผมรักเมืองไทย”, “รักนะจุ๊บๆ”, “เมื่อวาน..(นึกๆ) ผมกินต้มยำกุ้ง”, “ผมทำตามสัญญา” แต่คนที่เอาใจไปเลยทั้งประโยคสุดครีเอทและความยาวชนะเลิศคือซึงฮยอน “ไม่ได้เจอกันนานนะครับ ผมแฮปปี้มากๆ ครับที่ได้กินอาหารไทยจนท้องแตกและที่ได้เจอพรีมาดอนน่าครับ ตอนนี้ก็อิ่มมากๆ จนขยับตัวยากมาก แต่ว่าผมอยากจะสนุกกับแฟนๆ จนผมคอเคล็ด ขอบคุณครับ” เป็นการยืนยันว่าหนุ่มๆ คิดถึงและรักษาสัญญาที่บอกว่าจะกลับมาหาแฟนชาวไทยจริงๆ
จบช่วงพูดจาภาษาไทย FTISLAND ก็ชวนอินต่อในเพลงซึ่งโชว์เสียงร้องทรงพลังของฮงกีได้อย่างถึงแก่นกับ Severly ตามด้วย Hey Girl และ Stay ที่คนดูร้องตามเสียงดังกระหึ่ม ทำเอาฮงสตาร์ (ฮงกี) ชมเป็นภาษาไทยไม่ขาดปากเลยว่า “เก่งมาก!!” และแล้วก็มาถึงความฟินขั้นสุด เมื่อหนุ่มๆ ทั้งห้าคนเดินเรียงแถวมาขึ้นเวทีเกาะ (Island Stage) เวทีเล็กกลางฮอลล์ที่จัดขึ้นเพื่อความใกล้ชิดไม่เหินห่าง ให้ได้เห็นทั้งฝีมือการเล่นดนตรีและร้องสดในระยะประชิดตัว ได้ฟินกับความหล่อ-เท่-น่ารักกันเต็มตาไปเลย เซ็ตนี้มาในเพลงเบาๆ นั่งร้องกันสบายๆ Last Love Song ที่จงฮุนโชว์ฝีมือการเล่นเปียโนได้เพราะสุดขั้ว พร้อมกันนั้นมีซีนโปรเจ็กต์ของแฟนคลับ เหล่าพรีมาดอนน่าพร้อมใจกันชูป้าย “อกหักมารักเค้ามั้ย?” เรียกรอยยิ้มและเสียง “ว้าว” จากหนุ่มๆ ได้เป็นระยะทีเดียว ต่อเพลงด้วย Morning Coffee, BPM69 และ Do You Know What? ในสไตล์ไลฟ์เฮ้าส์ เรียบง่าย เน้นความใกล้ชิดและอบอุ่น ถึงขั้นสาดแชมเปญใส่แฟนๆ พร้อมทั้งชนแก้วบนเวที เพราะหนุ่มร็อกวงนี้เขาบอกแบบแมนๆ เลยว่า “พวกเราชอบดื่มเหล้าเวลาเล่นคอนเสิร์ตกันครับ”
เข้าช่วงพีคมากกับ I Hope ซึ่งฮงกีชวนพรีมาดอนน่าร้องวอร์มเสียงได้สุดประทับใจ แล้วมันกันต่อชนิดหัวฟัดหัวเหวี่ยงกับ Falling Star ที่ฮงกีกระโดดโลดเต้นจนข้อเท้าพลิก อาการหนักไม่น้อย แต่ด้วยสปิริตเต็มล้น ฮงกีทั้งขอโทษทั้งบอกคนดูว่า “ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องเป็นห่วง” จากนั้นโชว์ต่อเลยแบบไม่พักร่างกับเพลง Shinin’ On และ Freedom ถือเป็นช่วงพีคสุดพลังทั้ง Live Performance ของห้าหนุ่ม FTISLAND และโปรดักชั่นสุดอลังที่ผู้จัด เฟโอห์ ขนมาเต็มไม่มีกั๊ก ฮงกีเต้นไปกะเผลกไปจนพรีมาดอนน่าต้องตะโกนให้กำลังใจ กลายเป็นบรรยากาศสุดซึ้งที่คนข้างล่างก็ถามว่า “เป็นอะไรหรือเปล่า”, “นั่งเถอะ” คนบนเวทีก็บอกว่า “ผมไม่เป็นไร”, “ไม่ต้องห่วงผมนะ” สร้างโมเมนต์ดีๆ ร่วมกันไปอีกกระบุงโกย
มาถึงช่วงสุดท้ายกับเพลงที่ FTISLAND บอกว่ามีความหมายกับพวกเขามากที่สุด To The Light ตามติดด้วย Pray ซึ่งมีภาพประทับใจเกิดขึ้นพร้อมกันนั้นเป็นโปรเจ็กต์ชูข้อความว่า ALWAYS BESIDE YOU และ WE’RE YOUR LIGHT ส่งผลให้ธันเดอร์โดมสวยสว่างไปด้วยแสงแฟลชสีเหลืองจากมือถือนับพัน พร้อมข้อความเรืองแสงบนอัฒจันทร์คนดูโซนท้ายสุด ‘We Will Protect Your Dreams’ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงอังกอร์กับ Puppy ซิงเกิลใหม่สุดน่ารัก มีให้ตะโกน “Bow Wow Wow” กันอย่างสนุกสนาน ต่อด้วย Flower Rock และปิดเวทีคอนเสิร์ต “2015 เอฟทีไอส์แลนด์ ไลฟ์ [วี วิล] อิน แบงคอก” ซึ่งถือเป็นคิวปิดท้ายตารางเอเชียทัวร์ของพวกเขาด้วย First Kiss เพลงที่พรีมาดอนน่าร้องได้เป๊ะทุกคน หนุ่มๆ เดินมาร้องเพลงที่ Island Stage อีกครั้งให้ฟินกันสั่งลา ซึ่งแม้ว่าฮงกีจะต้องให้สต๊าฟและเพื่อนช่วยประคอง แต่ก็ทิ้งท้ายได้อย่างน่ารักน่าหยิก โดยแต่ละหนุ่มทั้งรับของที่แฟนๆ ส่งให้ ทั้งลงนั่งคุกเข่าให้เห็นหน้าระยะประชิด ทั้งก้มหน้าคุย ทั้งยื่นมือให้จับ แล้วก็ลาจากกันหลังถ่ายรูปร่วมกับแฟนๆ ทั้งธันเดอร์โดม ยังมิวายมีประโยคทะเล้นๆ จากปากฮงกีว่า “ผมจะไม่ลืมวันนี้ เพราะเป็นวันที่ผมเจ็บตัวบนเวที” ได้ฮาปิดท้ายกันไป ดูจบงานนี้ยืนยันได้แจ่มชัดอีกทีเลยว่า ‘วงดนตรีที่ดีที่สุดของเกาหลี’ ไม่ใช่แค่คำคุย แต่พิสูจน์ได้จริง ทั้งจากฝีมือและสปิริตเข้มข้นที่ต้องยกสองแม่โป้งให้ FTISLAND ทั้งวงไปเลย!
แฟนๆ ที่ติดอกติดใจฝีมือและผลงานคุณภาพของ บริษัท เฟโอห์ จำกัด (Feoh Co.,Ltd.) ผู้จัดงานคอนเสิร์ต 2015 FTISLAND LIVE [We Will] IN BANGKOK ครั้งนี้ ตามไปให้กำลังใจและสอดส่องข่าวคราวคอนเสิร์ตต่างประเทศเด็ดๆ ครั้งต่อไปได้ทาง https://www.facebook.com/FeohThai และ Twitter @FeohThai
